วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วันที 5 ทริปล่าโคโมโด (ด้วยกล้องถ่ายรูป) หาดสีชมพูเกาะโคโมโด

Saturday 23rd  May 2015 เป็นวันที่ 5 ของการเดินทางครับ เมื่อคืนเราซื้อทริปเหมาเรือวางท้องไปเที่ยวเกาะโคโมโดกันครับ เวลานัดพบกันที่ออฟฟิซคือ 6:00 น.ตอนเช้า เมื่อคืนไม่ได้เตรียมข้าวผัดไก่ Nasi Goreng Ayam ไว้ครับ หวังน้ำบ่อหน้า กะว่าจะมาหาซื้อตอนเช้า ปรากฏว่าหาร้านยากมากไม่มีร้านไหนเปิดเลยที่เดินออกมาจากโรงแรม  แต่มาเจออีกร้านหนึ่งเป็นร้านข้าวแกงอยู่เยื้องๆกับบริษัท Bulé ที่เราซื้อทัวร์เลยครับ คุณป้าตักข้าวแกงใส่กล่องให้แบบละเมียดละไมช้ามากกว่าจะได้ครบ 6 กล่อง กลายเป็นว่าเลทไปครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้เดินไปท่าเรือที่อยู่ข้างๆบริษัท ที่จริงก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมกรีนฮิลที่เราพักเลยครับ ใกล้มาก ไม่ต้องนั่งรถเลย ครับ


ทางเข้าท่าเรือที่จะไปทัวร์ครับ คนละท่ากับเรือเฟอรี่ที่เราข้ามเกาะมาจากซุมบาวานะครับ แต่อยู่ใกล้กัน


เข้ามาข้างในท่าเรือเจอเรือเพียบเลยครับ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเรอสำหรับพานักท่องเที่ยวไปทัวร์ครับ ถ้าใครไม่อยากจองทัวร์ผ่านตัวแทนเวลาไปทัวร์ก็ให้ลองเข้ามาติดต่อในท่าเรือนี้นะครับ แต่อาจจะมีปัญหา ในด้านการสื่อสารเพราะคนท้องถิ่นอินโดนีเซียที่นี่พูดอังกฤษไม่ได้เลยครับ ถ้าจะให้สะดวกก็ผ่านตัวแทนจะดีกว่า จะได้เคลียร์ๆกันไปเลยว่าเขาจะพาเราไปที่ไหนบ้างแต่ต้องยอมรับว่าเป็นราคาผ่านนายหน้า ก็น่าจะแพงกว่ามาติดต่อเองอยู่แล้วครับ ก็แล้วแต่ถนัดนะครับ 


บนท่าเรือครับ


ส่วนใหญ่เป็นเรือวางท้องครับ คล้ายๆเรือหางยาว ครับ แต่ตัวเรือใหญ่กว่าครับ 


เรือลำนี้ของเราครับ ANDIKA 


มุ่งหน้าไปยังเกาะโคโมโดครับ ซึ่งจะต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงเลยครับ จากลาบวนบาโจ 


ผ่านเกาะน้อยใหญ่มากมาย แต่กล่องผมซูมได้แค่นี้นะครับ 


ภูเขาสวยแปลกตาดีครับ ไม่มีต้นไม้ มีแต่หญ้าเขียวๆเตี้ยๆบนยอดครับ เป็นเหมือนกันทุกเกาะเลยครับโซนนี้ บางเกาะก็มีหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆอยูกันเป็นกระจุกๆครับ


เข้ามาใกล้กว่าเดิมแล้วครับ


ดูเพลินๆไปเรื่อยๆนะครับ มันมีหลายเกาะมากๆ ไม่รู้เกาะไหนเป็นเกาะไหน


ดูเพลินๆไปเรื่อยๆนะครับ มันมีหลายเกาะมากๆ ไม่รู้เกาะไหนเป็นเกาะไหน


ทะเลไม่มีคลื่นเลยครับ เงียบนิ่งมาก


เกาะนี้ดูแห้งแล้งกว่าแต่มีบ้านคนอยู่เยอะ


ทะเลเรียบ จนน่ากลัว ไม่มีคลื่นเลยจริงๆครับ


ผ่านสามเกาะนี้ ก็ใกล้ถึงเกาะโคโมโดแล้วครับ


เกาะโคโมโดครับ 


อาหารเช้าที่โรงแรมเตรียมให้แบบ Breakfast Box ไม่พอครับ เริ่มจะงัดมาม่ามากินกันครับ เริ่มจะหิวกันแล้ว นั่งเรือมาจะ 3 ชั่วโมงอยู่แล้วครับ 


พี่คนขับเรือรอบบ่ายไปนั่งหัวเรือเก๊กหล่อ (รอบเช้าให้น้องอีกคนหนึ่งเป็นคนขับ)


เกาะโคโมโดเป็นเกาะใหญ่ มีภูเขาอยู่ตรงกลางเป็นแนวสลับซับซ้อนมากมายครับ


หาดทรายเล็กๆก็เยอะครับ แต่ยังไม่ถึงหาดชมพูที่เราจะไปเล่นน้ำครับ


มีเรือพานักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่ไม่เยอะครับ ยังเป็นธรรมชาติอยู่มากครับ


ก่อนเข้าโละห์เหลียง เจอภูเขาสองลูกนี้ สะท้อนเป็นเงาในน้ำ


เรากำลังจะแซงลำนี้ไป พี่ฝรั่งเสื้อส้มนี้แกเล่นเหมาลำมาคนเดียวเลยครับลำนี้ 


ท่าเรือโละห์เหลียง อยู่เบื้องหน้าพวกเราแล้วครับ


เทียบท่าครับ เวลาตอนนี้คือ 9:30 น. ครับ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงจริงๆครับจากลาบวนบาโจ


หาดทรายที่โละห์เหลียงครับ


วิวจากท่าเรือที่เรามาเทียบเมื่อกี้ครับ


ดูจากในแผนที่นี้ เรานั่งเรือมาจากลาบวนบาโจ ผ่านเกาะแก่งเล็กๆมากมายจนมาถึงเกาะโคโมโดซึ่งเป็นเกาะใหญ่ในบริเวณนี้ครับ สุดท้ายเราก็มาถึงโละห์เหลียง ครับ ( Loh Liang ) ซึ่งเป็นที่ทำการอุทยานเพื่อติดต่อให้เจ้าหน้าที่พาเราไปเดินล่ามังกรโคโมโดกันครับ


ด้านหน้าทางเข้าอุทยาน เราต้องเดินเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานข้างใน ครับ เพื่อจ่ายค่าเข้าอุทยานตกคนละ 230,000 รูเปียห์ (628 บาท) ราคานี้ประกอบไปด้วย ค่าเข้าชมสถานที่คนละ 50,000 รูเปียห์ (136 บาท) ค่าตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวเข้าชมคนละ 150,000 รูเปียห์ (408 บาท) ค่าเดินป่าคนละ 5,000 รูเปียห์ (13 บาท) และมีค่าเจ้าหน้าที่อุทยานสองคนสำหรับกรุ๊ปเราอีก 160,000 รูเปียห์(437 บาท เฉลี่ยแล้วต้องจ่ายค่าเจ้าหน้าที่ต่อคนคนละ 218 บาทโดยประมาณ) อาจจะงงนิดหน่อย แต่เขาคิดมาให้เราคือตกคนละ 230,000 รูเปียห์ครับอย่างที่บอกแล้วได้ตั๋วค่าโน่นนี่นั่นมาเต็มไปหมด สุปแล้วคือจ่ายคนละ 628 บาทโดยประมาณครับ


จ่ายตังค์เสร็จแล้วก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่อุทยานที่จะพาเราไปเดินครับ พี่สุดหล่อคนนี้แนะนำข้อควรปฏิบัติต่างๆระหว่างการเดินทางล่าโคโมโด พี่แกให้เลือกว่าเราจะเอาแบบเดินสั้นๆ 1 กิโล แบบกลางๆ 3 กิโล หรือแบบยาว 5 กิโลครับ พวกเราเลือกแบบกลางๆ เพราะกลัวลุงเสริมเดินไม่ไหว ไม่กล้าเลี่ยงเดินไกลมาก ข้อควรปฏิบัติคร่าวๆคือ ห้ามเดินแยกออกจากกลุ่ม ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามแกว่งวัตถุที่อาจจะทำให้โคโมโดเข้ามาโจมตีเราครับ ประมาณนั้น


พี่คนนี้คือเจ้าหน้าที่อีกคนที่ปิดท้ายขบวนเราครับ 


ไม้ง่าม ไว้ป้องกันโคโมโดครับ 


ระหว่างเดินทางไปพี่เจ้าหน้าที่ก็อธิบายถึงวิวัฒนาการของมังกรโคโมโดด้วยครับ ว่าตอนมันเด็กๆ มันจะอยู่บนต้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้มันโดนตัวใหญ่กิน หรือมันจะต้องไปคลุกขี้ ให้เหม็นๆ เพื่อไม่ให้ตัวใหญ่มากินมันครับ 


เจอรังผึ้งเล็กด้วย


เดินไปสักพักเจอป้าย ให้หุบปาก เฮ้ยไม่ใช่ ให้เงียบๆครับ


พี่เจ้าหน้าที่บอกว่ามีหมูป่าโผล่มา แต่เราไม่ทันมองครับ ถ่านรูปเอามาดูเพื่อที่จะหาว่ามันอยู่ไหน ก็ยังหาไม่เจออยู่ดีครับในปัจจุบัน 555+++


ในที่สุดเราก็มาเจอเจ้าตัวนี้เป็นตัวแรกครับ ขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มากกำลังนอนอาบแดดอย่างสบายใจ


คุณมังกรโคโมโด ไม่สนใจอะไรเลยครับ ยังดูสงบนิ่ง


ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกับคุณมังกรโคโมโดคนละ 1 รูป


หลังจากนั้นก็เดินมุ่งหน้าต่อไปครับ 


หลังๆชักจะเดินขึ้นเขาสูงขึ้น ลุงเสริมเริ่มบ่นปวดขา(เพราะใส่เหล็กไว้เพราะเคยเกดอุบัติเหตุขี่มอไซต์ขนหมาขาหักต้องใส่เหล็กมาจนปัจจุบัน) เลยต้องเดินให้ช้าลงแต่แดดร้อนเกินบรรยาย


พรรคพวกที่อยู่ด้านหลังยังชิลๆ 


มาหยุดตรงวิวที่เห็นเวิ้งอ่าวที่เรือเราเข้ามาจอด


วิวเวิ้งอ่าวท่าเรืออีกรูปครับ


ใต้ร่มไม้ใหญ่เจอคุณพี่มังกรโคโมโดอีก 1 ตัวหลบร้อนอยู่ใต้เงต้นไม้


ทีนี้ก็เดินลงเขา เจอทางแยกแบบเดินระยะทางสั้นหรือยาว แต่พวกเราต้องเดินกลับฐานแล้ว


เดินลงมาจนถึงชายหาด


เจออีกตัวอยู่ใต้ต้นไม้หน้าบ้านเจ้าหน้าที่อุทยาน


และอีกสองตัวกำลังนอนกอดกันแน่นอย่างมีความสุขไม่รู้เรื่องรู้ราว


มีการนอนแบบว่าหนุนแขน เอ้ย! หนุนตีนกันด้วย อิๆ


ต้องแอบดูซะหน่อย เจ้าตัวทางซ้ายตื่นแล้วผงกหัวว่าใครแอบบดูมัน


คนแอบดูก็ทำหน้าเซ็ง เอ้ย ไปดีกว่า ....


อีกมุมหนึ่งก็เป็นฝูงกวางอยู่ลิบๆ ถามเจ้าหน้าที่บอกว่ากวางพวกนี้ก็อยู่ของมันเองตามธรรมชาติ แต่ผมคิดว่าเดิมทีน่าจะมีการเอามาเลี้ยงไว้แล้วให้พวกมันขยายพันธ์ุกันเองตามธรรมชาติ 


น่าสงสารที่พวกมันต้องระวังตัวกันตลอดเวลา หากโดนโคโมโดกัดก็ต้องรอวันตายเป็นอาหารอันโอชะของบรรดาโคโมโดสถานเดียวครับ เพราะน้ำลายโคโมโดมีเชื่อแบคทีเรียเยอะมาก 


น้องกวางน่ารักมากครับ


แต่พอเราเข้าไปใกล้ก็เริ่มวิ่งหนี สงสัยคิดว่าเราเป็นโคโมโด 5555 เอิ๊กๆๆๆ +++


บรรยากาศดีมากครับ 


กลับมาหาเจ้าโคโมโดใหม่ ตัวที่หลับเมื่อกี้ เริ่มออกเดินแล้วครับ พุงย้วยเลย สงสัยเพิ่งไปแอบกินซากอะไรมาแน่ๆเลย


แลบลิ้นยาวเชียวครับ ดูดีๆ 


ได้เวลาจรลีจรจาก เดินกลับมาที่ท่าเรือ มีเด็กมาขายไม้แกาะสลักรูปมังกรโคโมโด แต่ไม่สวยครับ เลยไม่เอา รกกระเป๋า จุดหมายของเราต่อไปคือหาดสีชมพูหรือ Pink Beach ครับ 


ประมาณ 15 นาที เราก็มาถึงหาดสีชมพู หรือ Pink Beach ครับ มองจากตรงนี้ไม่ค่อยชมพูเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะแสงแดดจ้ามากไป


น้ำใสครับ เย็นด้วย ไม่ได้เป็นน้ำอุ่นนะครับ ขนาดว่าอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรกว่าบ้านเราเยอะ


เรือของเราจอดลอยลำอยู่กลงทะเล สักครู่มีเรือเล็กเข้ามาบอกว่าให้เราเปลี่ยนเรือมานั่งเรือลำนี้เพื่อเข้าหาดสีชมพูครับ ราคาขูดรีดเชียวครับผมวา แต่ก็จ่ายๆไปขี้เกียจรำคาญ คนละ 20,000 รูเปียห์ครับ ไปกลับ ไม่ไกลเลย ต้องจ่ายตั้งคนละ 54 บาท ว่าแล้วก็ขนสัมภาระพวกอาหารเที่ยว น้ำดื่มที่เตรียมมา เอาขึ้นเรือลำนี้ครับ 


หาดสีชมพู น้ำเย็นดีครับ ไม่ร้อนเหมือนบ้านเรา ทะเลเขาบริสุทธิ์มากครับ ไม่มีขยะ และไม่มีคนพลุกพล่านเลยครับ นักท่องเที่ยวมาที่นี่น้อยมาก 


ให้ดูว่าข้างบนหาดมันจะเป็นทรายสีขาว แต่ส่วนที่ติดกับพื้นน้ำจะเป็นสีชมพู แต่รูปนี้ไม่ชัดเท่าไหร่


รูปนี้ชมพูกว่าครับ ลองตักทรายขึ้นมาดูมันจะเป็นเกล็ดเล็กๆของปะการังสีแดงที่ตายแล้วแตกเป็นผงเล็กๆรวมกับหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ มันเลยทำให้เรามองเป็นสีชมพูครับ 


เดินมาขึ้นจุดชมวิวครับ สวยมาก


ทะเลสวยมากครับ ผมชอบที่นี่มากๆ


ถ่ายลงไปที่ชายหาดครับ ไม่ค่อยชมพูเท่าไหร่ แดดจ้าเกิน


อีกรูปก็ยังไม่ชมพูเท่าไหร่ 


รูปที่คนอื่นถ่ายมาอีกที น่าจะมีการปรับแสงหน่อย มันเลยมองชมพูมากขึ้น



สุดหาดชมพูก็มีหินนะครับ


ได้เวลาให้อาหารเที่ยงครับ


ได้เวลากลับลงสู่ถ้ำใต้ทะเล เอ้ย ได้เวลาเล่นน้ำอีกรอบครับ 


สมควรแก่เวลาก็มุ่งหน้ากลับลาบวนบาโจเหมือนเดิมครับ  ระหว่างทาง คนขับเรือพามาดำสน็อกที่จุดมันตาพอยท์ครับ ดูปลากระเบน เห็นอยู่ลิบๆ ดูในวิดีโอนะครับ ที่ลิงค์นี้ https://www.youtube.com/watch?v=oP_EXTLY9KY 


นอนอาบแดดบนเรือให้ดำยิ่งขึ้น


น้ำทะเลสงบนิ่งเหมือนเดิม


เกาะนี้ยาวเหมือนแครอท


หมู่บ้านชาวประมง


กลับาถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย อาบน้ำ หาอะไรกินกันข้างถนนตอนเย็น วิวจากระเบียงหน้าห้องที่กรีนฮิลล์บูติกรีสอร์ทที่เราพักนะครับ 


ระเบียง ทางเดิน หน้าห้อง


เย็นๆ เรือเยอะมากครับ 


ถ่ายรูปให้ดูเตียงในห้องครับ 


ถ่ายรูปหน้าห้องน้ำครับ เป็นแบบนี้ วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ พรุ่งนี้เราจะเที่ยวถ้ำกัน



ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น