วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วันที่ 1 เดินทางจากประเทศไทยสู่กัวลาลัมเปอร์ และเดินทางต่อไปยังเกาะลอมบ็อก อินโดนีเซีย ด้วย Air Asia

Tuesday 19th May 2015 เป็นวันแรกของการเดินทางนะครับ ผมเดินทางจากสนามบินกระบี่ สู่กัวลาลัมเปอร์ (KLIA2) ประเทศมาเลเซียด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน AK867 07:55 – 10:15 (ถึงกัวลาลัมเปอร์แล้วปรับนาฬิกาให้เวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงด้วยนะ) ผ่านตม. กัวลาลัมเปอร์ เข้ามารอเพื่อขึ้นเครื่องต่อไปลอมบ็อกครับ


ภาพแรกที่เห็นสนามบิน KLIA2 มันช่างอลังวังเวอร์มากๆครับ แตกต่างจากสนามบิน LCCT เก่าอย่างสิ้นเชิงครับ แอร์เอเชียเปลี่ยนมาเป็นสนามบินแห่งนี้น่าจะซักสองปีแล้วเก็นจะได้ เพราะผมไม่ได้แวะเวียนมาเลยสองปีแล้ว คราวนี้ได้มาเห็นซะที สนามบินใหญ่มาก เดินกันเหนื่อยเลยกว่าจะมาถึงจุดผ่าน ตม. ผ่านมาถึงตรงนี้ก็เข้าไปที่ Departure เลยครับ ขึ้นมาชั้นบน เจอป้ายใหญ่ บอกไฟลท์ขาออกตามตารางเวลาเรื่อยๆครับ 


ใกล้ๆกันก็มีร้านอาหารทั้งสองฝั่งครับ แต่จากการเดินสำรวจ ร้านอาหารชั้นที่อยู่ระหว่างชั้นนี้กับชั้นล่างจะถูกกว่าชั้นบนนี้เยอะครับ 


ถึงเวลาก็รอต่อเครื่องด้วยเที่ยวบิน AK306 15:35 – 18:45 ถึงสนามบินลอมบ็อก ใชช้เวลา 3 ชั่วโมงกับ 10 นาทีครับ ไม่ต้องปรับนาฬิกาแล้วเพราะเป็นเวลาเดียวกับกัวลาลัมเปอร์ (ประเทศอินโดนีเซีย เกาะสุมาตรา และเกาะชวา ใช้เขตเวลาเดียวกับประเทศไทย ส่วนเกาะบาหลี ลอมบอก ฟลอเรส บอร์เนียว สุลาเวสี และเกาะต่างๆไปทางตะวันออกจะใช้เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงเหมือนมาเลเซียและสิงคโปร์ครับ)  ถึงสนามบินลอมบ็อกแล้ว ให้ความรู้สึกผิดคาดมากครับ ตอนแรกคิดว่าสนามบินน่าจะเล็กๆ บ้านๆ ที่ไหนได้ ก็ดูใหญ่เหมือนกันครับ สนามบินที่เกาะลอมบ็อกนี้เป็นสนามบินใหม่อยู่ที่ Praya เมื่อก่อนสนามบินลอมบอกอยู่ที่ Mataram ครับ


เดินมาเข้าคิวผ่านด่านตม.ครับ ขอบอกว่ามีแค่แถวเดียวยาวเป็นกิโลครับ แอบถ่ายนิดหนึ่ง พร้อมกับเสียง จนท.เอ็ด ว่าห้ามถ่ายรูป ก็ต้อง Say Sorry ไปตามระเบียบครับ แต่ได้มา 1 รูปแบบเหมือนไม่ได้ตั้งใจถ่าย 555 เข้าแถวไปได้สักพัก การตรวจคนเข้าเมืองก็ต้องหยุดชะงักลงเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่ต้องเข้าแถวรอ คาดว่าระบบคอมพิวเตอร์ล่มครับ กว่าจะเสร็จเล่นเอาเมื่อยตุ้มไปตามๆกัน (ก่อนมาเข้าคิวตม. แนะนำให้เข้าห้องน้ำก่อนครับ เพราะเสียเวลนานมาก มีสมาชิกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ แต่รอนานมาก ถ้าเดินกลับไปก็กลัวเสียคิวเลยยอมทน ผ่านตม.ออกมาได้ก็หายปวดซะแล้ว อิๆ)


ผ่าน ตม. ออกมาแล้ว ตอนแรกว่าจะแลกตังค์ แต่แบงค์ปิดซะแล้วครับ นี่มันยังไม่ 2 ทุ่มเลยนะ ปิดไปแล้ว สงสัยนักท่องเที่ยวมาไม่เยอะ เลยปิดเร็วมาก


มีเคาน์เตอร์ขายตั๋วรถบัสเข้าเมืองด้วยครับ ไปมาตาราม คนละ 25,000 รูเปียห์ (คนละ 68 บาท) ไปเซ็งกิกิคนละ 35,000 รูเปียห์ (คนละ 95 บาท) แต่เราไม่มีเวลาขนาดนั้น เพราะมันค่ำแล้ว ไปหาแท็กซี่เอาดีกว่า จะได้พาเราไปโรงแรมได้โดยตรงเลย ไม่ต้องไปเดินหาอยู่อีก 


เดินออกมาหน่อยก็เจอตู้เอทีเอ็ม หลายธนาคารเลยครับ กดได้สูงสุดครั้งละ 1,250,000 รูเปียห์ ต่อครั้งครับ (ประมาณ 3289 บาท เพราะเรทกดตู้เอทีเอ็ม 1 บาท ไทย ประมาณ 380 รูเปียห์ แต่การกดในแต่ละครั้งธนาคารจะหักค่ากดเงินต่างประเทศ 100 บาทครับ อันนี้ผมทราบจากการมาเปิดดูบันชีทางอินเตอร์เน็ททีหลัง)


ออกมาเจอพี่คนนี้ครับ ผมตกลงราคากันนานพอสมควร บอกราคาตอนแรก 350,000 รูเปียห์ (956 บาท) แต่ต่อรองกันไปกันมาสักพัก เหลือ 250,000 รูเปียห์ครับ (683 บาท) เฉลี่ย 6 คนก็ตกคนละ 100 บาทนิดๆก็โอเคเลยครับ ราคานี้ ใกล้เคียงกับราคา Damri Bus ที่เป็นรถโดยสารสาธารณะไปเซ็งกิกิเลยครับ) 


บรรยากาศทั่วไปในอาคารขาเข้าสนามบินลอมบ็อก ครับ


ในสนามบินมี KFC ด้วย อ้าวไม่ใช่ นี่มัน  CFC ครบสูตรเลยนะ ปล่อยสาร CFC สู่ชั้นบรรยากาศให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก 5555 (มั่วแระ คนละอย่างกัน)


แอบถ่ายตาลุงโรธไปซื้อไก่ CFC และมันฝรั่งทอดเฟรนช์ไฟร


ด้านหน้าสนามบินลอมบ็อก ถ่ายจากลานจอดรถด้านหน้าครับ


รถคันนี้ครับ เรานั่งกันมา 6 คนกับคนขับรวม 7 คน พอวางกระเป๋ากับคนได้พอดีครับ ก็เลยบอกว่าทริปแบบนี้เดินทาง 6 คนกำลังสวย เรื่องการแชร์ค่าโดยสาร และจำนวนคนที่ใส่ไปในรถได้ 1 คันพอดีแบบไม่ต้องนั่งสองคัน)


ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึงโรงแรม เรสซ่าโฮมสเตย์ที่จองเอาไว้ครับ รู้สึกหิวเลยออกมาหาอะไรกินกันก่อน จากปากซอยทางเข้าโรงแรม เดินเลี้ยวซ้ายออกมา 200 เมตร ก็เจอร้านนี้ครับ ร้านก๋วยเตี๋ยวหมี่บักโซ อร่อยดี ไม่มีหมูนะครับ ร้านอิสลามครับ 


ติดกับร้านก๋วยเตี๋ยวบักโซ ตาลุงโรธเดินไปช็อป หมดตังค์ตั้งแต่วันแรกด้วยแหวนหัวหินหลากหลายสีหลายวงเลยครับ เขาบอกว่าแร่อะไรแล้วแต่ผมลืมไปแล้ว สวยดี วงละ 200,000 รูเปียห์ต่อรองราคาแล้วนะ (546 บาท) ซื้อที่อื่นแพงกว่า เพราะลอมบ็อกเป็นแหล่งหินสีที่ทำแหวนนี้ครับ เห็นบอกว่าส่งไปขายที่บาหลีด้วย แต่ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหนครับ แต่คนที่ลอมบ็อกนิยมใส่แหวนแบบนี้กันเยอะมากๆครับ แทบจะทุกคนเลย ใส่แหวนหินสี ผมไม่ได้ซื้อไว้เสียดายเหมือนกัน แต่ถ้าใครมีตังค์ก็ซื้อไว้สักวง สวยดีครับ แฮนด์เมด ถ้าใครไปก้ซื้อเก็บไว้ซักวงก็ดีนะครับ เป็นที่ระทึก


เดินเลยไปอีกหน่อยจากร้านบักโซและร้านลุงขายแหวนก็เจอร้านชำชื่อ J MART ครับ แต่กำลังปิดพอดี


เดินมาอีกนิด ฝั่งตรงข้ามถนน เยื้องๆ J Mart เมื่อกี้เป็นร้าน Indo Mart ครับ น่าจะประมาณ 7-eleven ไม่แน่ใจว่าเปิด 24 ชม. หรือเปล่าแต่ดูจากสภาพการณ์แล้วน่าจะใช่ครับ ซื้อขนมนมเนยก็กลับโรงแรม ไปติดต่อเรื่องทัวร์เกาะลอมบ็อกวันพรุ่งนี้ครับ เจ้าของโรงแรม คิดราคา 700,000 รูเปียห์สำหรับทัวร์เต็มวันครับ (1912 บาท ตกคนละ 318 บาท ถูกมว้าก...... เลยตกลงทันทีครับ) เป็นทัวร์พาไปชมหาดต่างๆที่มีชื่อเสียงของลอมบ็อกครับ แต่ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ เหนื่อยมาทั้งวันเดี๋ยวพรุ่งนี้ถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆโรงแรมให้ดูครับ

อ่านบทความถัดไป วันที่ 2 เช่ารถพร้อมคนขับเที่ยวเกาะลอมบ็อกหาดเซอลองบลานัก หาดมาวุน หาดกูตา แวะซื้อตัวรถบัส Langsung Indah เพื่อไปเกาะฟลอเรส

อ่านบทความก่อนหน้า เตรียมการเดินทาง / Itinerary ของทริปนี้ครับ
....................................................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น