สวัสดีครับเพื่อนๆ พบกับรีวิวทริปการท่องเที่ยวด้วยตัวเองกับหลวงไข่อีกทริปแล้วนะครับ ทริปนี้เราไปประเทศอินโดนีเซียกันอีกแล้วครับ แต่คราวนี้เราเริ่มทริปด้วยเกาะลอมบ็อกครับ เป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ถัดจากเกาะบาหลี ข้ามน้ำข้ามทะเล ข้ามเกาะซุมบาวา ข้ามทะเลอีกรอบไปจนถึงเกาะฟลอเรสที่เมืองลาบวนบาโจ แล้วบินกลับไปบาหลี เที่ยวบาหลีอีก 3 วันแล้วบินกลับประเทศไทยครับ ที่จริงทริปนี้ผมแพลนว่าต้องไปให้ถึงเกอลิมูตูทะเลสาบสามสีแต่เวลาไม่พอครับ อีกอย่างดูในรีวิวคนอื่นๆแล้วไม่สะดวกเพราะผมพาลุงเสริม(พ่อผมเอง)ไปด้วย แกนั่งหดขาลำบาก เพราะขาใส่เหล็กตอนเกิดอุบัติเหตุเมื่อ 10 กว่าปีก่อน และต้องเข้าห้องน้ำบ่อยเลยตัดไปเลย เหลือแค่โคโมโดแล้วก็กลับไปบาหลีเลยครับ
ทริปนี้เดินทาง 6 คนครับ ถือว่าเป็นจำนวนที่พอดีมากๆ สำหรับการแชร์ค่าเดินทางที่เป็นกลุ่มสำหรับแท็กซี่หรือไปทัวร์ครับ
ก่อนการเดินทางก็ต้องเตรียมตัวเล็กน้อยครับ ซื้อตัวแอร์เอเชียและ Lion Air ให้เรียบร้อย สิ่งที่ขาดไม่ได้คือพาสปอร์ต ที่ต้องมีอายุเหลือเกิน6 เดือนนะครับ อยู่อินโดนีเซียได้ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศนะครับ
เสื้อผ้าไม่ต้องเอาไปเยอะครับ อากาศคล้ายๆบ้านเรา แต่ก็ควรเอาผ้าโสร่งไปด้วยถ้าไปวัดที่บาหลีเช่นที่เบซากี (แต่ทริปนี้ผมไม้ได้ไป เกลียดไกด์ผีทะเลที่นั่นครับ เบซากีเลยโดนผมตัดออกไปเลย เข็ดหลาบกับไกด์เถื่อนเมื่อ 7 ปีที่แล้วที่ผมไปชมมาแต่ไม่ได้เอามาเขียนบล็อกครับ ตอนนั้นยังเขียนบล็อกไม่เป็น อิๆ )
ผ้าปิดจมูก ควรเอาไปอย่างยิ่งสำหรับคนที่แพ้พวกควันบุหรี่ พี่อินโดเล่นสูบบุหรี่ไปซะทุกที่ แม้แต่บนรถบัสติดแอร์ เดี๋ยวจะเล่าให้อ่านตอนเดินทางข้ามจากลอมบ็อกไปซุมบาวานะครับ
ยาดม หรือ ยาแก้เมารถเมาเรือ ถ้าใครเมารถเตรียมไปเลยครับ เกาะซุมบาวา ถนนยิ่งกว่าไปอุมผางบ้านเราอีกครับ โค้งไปโค้งมาทั้งคืน บางโค้งแทบจะเป็นวงกลม 360 องศาเลยครับ และเรือระหว่างเกาะซุมบาวากับฟลอเรสก็ใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงเลยครับ แต่วันที่ผมไปไม่มีคลื่นครับ ทะเลนิ่ง เงียบมากครับ
เงินไทยสามารถใช้ ซื้อของ shopping ได้ที่วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ Tirta Empul ที่บาหลีครับ ของราคา 50 บาท 100 บาท แม่ค้าบอกราคานี้หมดทุกร้านเลยครับ ของเยอะมากๆ ตื่นตาตื่นใจกับของสุดๆ
การแลกเงิน แนะนำให้แลกจากประเทศไทยไปก่อน ผมฝากเพื่อนแลกให้ที่ซุปเปอร์ริชที่ตรงข้ามเซ้นทรัลเวิร์ลด์ครับ เรท 1 บาท = 366 รูเปียห์อินโดนีเซียครับ (ค่าเงินอินโดต่ำลงมากครับ แต่ดีกับเราเพราะเราแลกได้ตังค์เยอะขึ้น เมื่อก่อนประมาณ 7 ปีที่แล้ว 1 บาท ได้แค่ 250 รูเปียห์เองครับ) ถ้าคิดจะไปแลกที่ลอมบ็อก กับลาบวนบาโจ ขอบอกว่าไม่มีที่แลกครับ (น่าจะแลกได้ที่สนามบินแต่ตอนเราไปถึงมัน 1 ทุ่มกว่าเขาปิดไปแล้ว) แต่เราก็กดเอทีเอ็มที่ลอมบ็อกและลาบวนบาโจได้ครับ ถอนเอทีเอ็มได้มากสุด 1,250.000 รูเปียห์ ออกมาธนบัตรไปละ 50,000 = 25 ใบ แต่เราจะโดนหักค่ากดครั้งละ 100 บาทครับ อันนี้ที่รู้เพราะกลับมาดูในบัญชีทางอินเตอร์เน็ทย้อนหลังครับ) เรทกดเอทีเอ็มอยู่ที่ประมาณ 1 บาท ประมาณ 380 - 382 รูเปียห์ครับ ซึ่งถือว่าดีกว่าอัตรแลก แต่ก็ต้องยอมรับการโดนชาร์ตค่ากดครั้งละ 100 บาทด้วยครับ แต่ที่บาหลีมีร้านหนึ่งทรี่แลกเงินไทยได้เรทดีที่สุด 1 บาท = 380 รูเปียห์ครับ
Itinerary ของทริปนี้ที่ผมแก้แล้ว ตามที่ได้ไปมาจริงๆตามรายละเอียดด้านล่างนี้นะครับ
Wednesday 20th May 2015 ตื่นเช้ามาก็จะมีอาหารเช้ารอเสิร์ฟอยู่ น่าจะเป็นโรตี แบบอินโดนีเซีย ขนมปัง ทานรองท้อง ใช้บริการทัวร์ของโรงแรม ออกไปชมความงามของหาดเซ็งกิกิ เดินทางไปมาตามราม เมืองหลักของเกาะลอมบอก เพื่อไปซื้อตั๋วรถบัสข้ามเกาะซุมบาวาไปเกาะฟลอเรส สถานีขนส่งบนเกาะลอมบอกที่มาตาราม ชื่อว่า Mandalika Bus Station อยู่แถว Bertais รถบัสเป็นของบริษัท Langsung Indah หาอาหารเที่ยงแบบท้องถิ่นด้วยบะหมี่ Bakso แบบอินโดนีเซีย เที่ยวไปเรื่อยๆอาจไปถึงหาด กูตา ซึ่งอยู่ด้านใต้ของเกาะลอมบ็อกไปหาหาด มาวุน (Mawun )ที่หน้าตาคล้ายๆกับอ่าวมาหยาที่เกาะพีพีของบ้านเรา แต่ที่นี่ไม่มีคนมาเที่ยวพลุกพล่าน หาดเซอลองบลานัก ที่สวยงามเงียบสงบไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน ตอนเย็นต้องกลับให้ทันดูพระอาทิตย์ตกดินที่ Pura Batu Bolong เป็นวัดฮินดู มีหินเป็นช่องโหว่ Pura Batu Bolong (Pura = วัด Batu = หิน Bolong = รู ) คืนนี้ยังพีกที่ Ressa Homestay อีก 1 คืน หาของกินแถวโรงแรม
Thursday 21st May 2015 รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม พักผ่อนตามอัธยาศัย เดินเล่นตามชายหาด เช็คเอ๊าท์ตอนเที่ยง ให้รถโรงแรมไปส่งที่ท่ารถ Mandalika Bus Terminal ที่ Bertais เวลาที่รถบัสจะออกจากสถานีคือ 14:30 น. ค่าตั๋ว จนถึง Sape เมืองด้านตะวันออกสุดของเกาะซุมบาวาคือ 200,000 รูเปียห์ต่อคน (ที่ท่ารถจะมีคนมาหลอกขายยามาลาเรีย อย่าเชื่อเพราะมาลาเรียไม่ได้ระบาดจริงๆที่ลาบวนบาโจ) รถอาจจะออกเลทประมาณ 15:30 น. มุ่งหน้าไปสู่เมืองด้านตะวันออกของเกาะลอมบอกชื่อ Labuhan Lombok รถบัสที่เรานั่งมาจะขึ้นเรือเฟอรี่ที่นี่ ท่าเรือชื่อ Kayangan เพื่อข้ามไปเกาะซุมบาวา ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการข้ามเกาะ (อากาศเย็น เตรียมเสื้อหนาวไปด้วย) บนเรือมีของขาย และมีคนเอาสินค้าทั่วไปมาขายด้วย ถืงเกาะซุมบาวาแล้วรถบัสก็มุ่งหน้าทางตะวันออกต่อไปเรื่อยๆของเกาะซุมบาวา คืนนี้จะนอนในรถบัสจนเช้า
Friday 22nd May 2015 เส้นทางบนเกาะซุมบาวาจะขึ้นเขาลงเขาเป็นทางคดโค้ง บางแห่งเกือบเป็นวงกลม รถแวะให้ทานอาหารแบบบ้านๆด้วยตอนค่ำประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง นั่งรถบัสมาจนเช้าตรู่ประมาณ ตี 5 รถบัสจะมาถึงเมือง Bima อากาศเย็น (ใช้เวลา 14 ชั่วโมงจากลอมบ็อก) แต่ยังไม่สุดทาง ต้องต่อรถมินิบัสที่นี่จากรถบัสใหญ่เป็นคันเล็ก (รอรถ 1 ชั่วโมง รถออกเวลา 6:00 น.) แต่เป็นของบริษัทเดียวกัน Langsung Indah นั่งรถมินิบัสจากเมือง Bima ไปยังเมือง Sape อีก 2 ชั่วโมงก็ถึงท่าเรือเวลา 8:00 น. จะมีเรือไป Labuan Bajo รอบ 10 โมง มีเที่ยวเดียวต่อวัน (เฉพาะวันเสาร์จะออก 16:00 น. ) ค่าเรือ 40,000 รูเปียห์ต่อคน ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ผ่านทัศนียภาพอันอันแปลกตาและสวยงามของภูเขาไฟ และน้อยใหญ่ในหมู่เกาะโคโมโด ถึง Labuan Bajo เมืองด้านตะวันตกสุดของเกาะฟลอเรส เวลา 16:00 น. เข้าพักที่โรงแรม Green Hill Boutique Hotel โรงแรมใหม่สวย มองเห็นวิวอ่าวลาบวนบาโจชัดเจน พักผ่อนตามอัธยาศัย ตอนค่ำออกไปหาข้าวกิน และหาบริษัททัวร์ที่จะเหมาเรือไปชมมังกรโคโมโด (กลางคืนเตรียมหาอาหารไว้เป็นเสบียงในทริปโคโมโดด้วย)
Saturday 23rd May 2015 รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ได้เวลาออกล่าโคโมโดแล้วครับ ทัวร์ออกประมาณ 6:30 น. ลมค่อนข้างเย็น วิวสวยแปลกตา เกาะข้างบนแห้งแล้งข้างล่างมีต้นไม้ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงถึงเกาะโคโมโด (Komodo Island) ถึงที่ทำการอุทยาน ที่ท่าเรือ Loh Lieng เรือจะปล่อยเราลงที่นี่แล้วให้เดินเข้าไป 100 เมตรจะเจอที่ทำการอุทยาน จ่ายค่าเข้าอุทยาน 206,000 รูเปียห์ ประมาณ 700 บาท (บัตรใช้ได้สามวัน) ถ้าเดิน 5 กิโล ต้องจ่ายเพิ่มอีก 50,000 รูปเปียห์ต่อคน เตรียมเสื้อกันแดดด้วย แดดแรงมากๆ แล้วก็ออกตะลุยล่าโคโมโดกันได้เลย ไปพร้อมเจ้าหน้าที่ ห้ามเดินเองเด็ดขาด ตอนบ่ายเรือจะพาไปสน็อกที่สวยมากๆชื่อ Pulau Selong ตอนเย็นกลับโรงแรม หาข้าวกิน พักผ่อนตามอัธยาศัย คืนนี้ก็ยังพักที่ Green Hill Boutique Hotel
Sunday 24th May 2015 วันนี้ฟรีสไตล์ เที่ยวถ้ำ Batu Cermin เป็นถ้ำสวยงาม ค่าเข้าชม 10,000 รูเปียห์ค่อคน ตอนค่ำยังนอนที่เดิมคือ Green Hill Boutique Hotel
Monday 25th May 2015 วันนี้จะเดินทางกลับบาหลีด้วยสายการบินไลอ้อนแอร์ (ใช้เครื่องวิงแอร์) ด้วยเที่ยวบิน IW1831 8:30 – 9:50 Labuan Bajo – Denpasar Bali ถึงสนามบินแล้วก็ต่อแท็กซี่ไปยังที่พักที่อูบุด โรงแรม Teba House Ubud Guest House ตอนบ่ายพักผ่อนตามอัทยาศัย ตอนเย็นเดินแวะชมร้านค้าสินค้าพื้นเมืองแถวโรงแรมที่พัก ตอนค่ำกลับมาดูการแสดงการร่ายรำเลก็องบาหลี
Tuesday 26th May 2015 เช่ารถพร้อมคนขับจากโรงแรม Teba House Ubud Guest House หรือเช่ามอไซค์ ชมเกาะบาหลี เช่นKintamani จุดชมวิวภูเขาไฟ หาอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟต์รับประทาน, วัดที่มีชาวฮินดูมาอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ กลับมาตอนค่ำชมการแสดงพื้นเมืองบาหลี อาจจะเป็น “กะจัก” พักที่ Teba House Ubud Guest House อีก 1 คืน
Wednesday 27th May 2015 ตื่นมารับประทานอาหารเช้า เช็คเอ๊าท์จากโรงแรม Teba House Ubud Guest House เช่ารถพร้อมคนขับให้พาไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆที่ เหลือ ได้แก่ Ulun Danau Bratan เป็นวัดที่อยู่กลางทะเลสาบบราตันอันสวยงาม / Pura Tanah Lot เลือกซื้อของฝากตามใจชอบ ตามด้วย Pura Uluwatu วัดบนหน้าผาสูงชันด้านใต้สุดของบาหลี เดินทางกลับสนามบินงูระไร ที่เด็นปาซาร์ เพื่อขึ้นเครื่องไปกัวลาลัมเปอร์ เที่ยวบินแอร์เอเชีย AK371 21:20 – 00:20 Denpasar – Kulalumpur ถึงกัวลาลัมเปอร์ (KLIA2) ผ่านตม. หามุมสงบนอนในสนามบิน (ในสนามบินตอนกลางคืนแอร์เย็นมาก เตรียมเสื้อหนาวด้วย)
Thursday 28th May 2015 ตื่นมาล้างหน้าล้างตาที่สนามบิน หาอาหารเช้ารับประทานที่สนามบิน แนะนำ Nasi Lemak (อาการพื้นบ้านแบบมาเลย์ ข้าวใส่เครื่องแกง มีเนื้อวัว หรือเนื้อไก่ให้เลือก ใส่ปลากรอบ ใส่ถั่ว) รอเที่ยวบินกลับประเทศไทย กัวลาลัมเปอร์ – สุราษฎร์ธานี AK838 10:35 – 11:05 (ถึงไทยแล้วก็ปรับนาฬิกาให้ช้ากว่าเดิม 1 ชั่วโมง ก็เป็นเวลาท้องถิ่นในไทย) ผ่านตม. เดินทางกลับเกาะสมุยโดยสวัสดิภาพ
ทริปนี้เดินทาง 6 คนครับ ถือว่าเป็นจำนวนที่พอดีมากๆ สำหรับการแชร์ค่าเดินทางที่เป็นกลุ่มสำหรับแท็กซี่หรือไปทัวร์ครับ
ก่อนการเดินทางก็ต้องเตรียมตัวเล็กน้อยครับ ซื้อตัวแอร์เอเชียและ Lion Air ให้เรียบร้อย สิ่งที่ขาดไม่ได้คือพาสปอร์ต ที่ต้องมีอายุเหลือเกิน6 เดือนนะครับ อยู่อินโดนีเซียได้ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศนะครับ
เสื้อผ้าไม่ต้องเอาไปเยอะครับ อากาศคล้ายๆบ้านเรา แต่ก็ควรเอาผ้าโสร่งไปด้วยถ้าไปวัดที่บาหลีเช่นที่เบซากี (แต่ทริปนี้ผมไม้ได้ไป เกลียดไกด์ผีทะเลที่นั่นครับ เบซากีเลยโดนผมตัดออกไปเลย เข็ดหลาบกับไกด์เถื่อนเมื่อ 7 ปีที่แล้วที่ผมไปชมมาแต่ไม่ได้เอามาเขียนบล็อกครับ ตอนนั้นยังเขียนบล็อกไม่เป็น อิๆ )
ผ้าปิดจมูก ควรเอาไปอย่างยิ่งสำหรับคนที่แพ้พวกควันบุหรี่ พี่อินโดเล่นสูบบุหรี่ไปซะทุกที่ แม้แต่บนรถบัสติดแอร์ เดี๋ยวจะเล่าให้อ่านตอนเดินทางข้ามจากลอมบ็อกไปซุมบาวานะครับ
ยาดม หรือ ยาแก้เมารถเมาเรือ ถ้าใครเมารถเตรียมไปเลยครับ เกาะซุมบาวา ถนนยิ่งกว่าไปอุมผางบ้านเราอีกครับ โค้งไปโค้งมาทั้งคืน บางโค้งแทบจะเป็นวงกลม 360 องศาเลยครับ และเรือระหว่างเกาะซุมบาวากับฟลอเรสก็ใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงเลยครับ แต่วันที่ผมไปไม่มีคลื่นครับ ทะเลนิ่ง เงียบมากครับ
เงินไทยสามารถใช้ ซื้อของ shopping ได้ที่วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ Tirta Empul ที่บาหลีครับ ของราคา 50 บาท 100 บาท แม่ค้าบอกราคานี้หมดทุกร้านเลยครับ ของเยอะมากๆ ตื่นตาตื่นใจกับของสุดๆ
การแลกเงิน แนะนำให้แลกจากประเทศไทยไปก่อน ผมฝากเพื่อนแลกให้ที่ซุปเปอร์ริชที่ตรงข้ามเซ้นทรัลเวิร์ลด์ครับ เรท 1 บาท = 366 รูเปียห์อินโดนีเซียครับ (ค่าเงินอินโดต่ำลงมากครับ แต่ดีกับเราเพราะเราแลกได้ตังค์เยอะขึ้น เมื่อก่อนประมาณ 7 ปีที่แล้ว 1 บาท ได้แค่ 250 รูเปียห์เองครับ) ถ้าคิดจะไปแลกที่ลอมบ็อก กับลาบวนบาโจ ขอบอกว่าไม่มีที่แลกครับ (น่าจะแลกได้ที่สนามบินแต่ตอนเราไปถึงมัน 1 ทุ่มกว่าเขาปิดไปแล้ว) แต่เราก็กดเอทีเอ็มที่ลอมบ็อกและลาบวนบาโจได้ครับ ถอนเอทีเอ็มได้มากสุด 1,250.000 รูเปียห์ ออกมาธนบัตรไปละ 50,000 = 25 ใบ แต่เราจะโดนหักค่ากดครั้งละ 100 บาทครับ อันนี้ที่รู้เพราะกลับมาดูในบัญชีทางอินเตอร์เน็ทย้อนหลังครับ) เรทกดเอทีเอ็มอยู่ที่ประมาณ 1 บาท ประมาณ 380 - 382 รูเปียห์ครับ ซึ่งถือว่าดีกว่าอัตรแลก แต่ก็ต้องยอมรับการโดนชาร์ตค่ากดครั้งละ 100 บาทด้วยครับ แต่ที่บาหลีมีร้านหนึ่งทรี่แลกเงินไทยได้เรทดีที่สุด 1 บาท = 380 รูเปียห์ครับ
Itinerary ของทริปนี้ที่ผมแก้แล้ว ตามที่ได้ไปมาจริงๆตามรายละเอียดด้านล่างนี้นะครับ
Itinerary Lombok - Komdo Island – Bali Trip
Tuesday 19th May 2015 เดินทางจากสนามบินกระบี่ สู่กัวลาลัมเปอร์ (KLIA2) ประเทศมาเลเซียด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน AK867 07:55 – 10:15 (ถึงกัวลาลัมเปอร์แล้วปรับนาฬิกาให้เวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงด้วยนะ) ผ่านตม. กัวลาลัมเปอร์ แล้วรอต่อเครื่องไปยังเกาะลอมบอก (Lombok) ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยเที่ยวบิน AK306 15:35 – 18:45 ถึงสนามบินลอมบ็อก(เป็นสนามบินใหม่อยู่ที่ Praya เมื่อก่อนสนามบินลอมบอกอยู่ที่ Mataram) แล้วหาแท็กซี่เข้าเมืองใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง คืนนี้พักที่ Ressa Homestay ตั้งอยู่ที่หาดเซ็งกิกิ (Senggigi Beach) เป็นหาดที่มีชื่อเสียงของลอมบอก อยู่ด้านตะวันตกของเกาะ เดินหาของกินแถวๆโรงแรมแล้วนอนเลยWednesday 20th May 2015 ตื่นเช้ามาก็จะมีอาหารเช้ารอเสิร์ฟอยู่ น่าจะเป็นโรตี แบบอินโดนีเซีย ขนมปัง ทานรองท้อง ใช้บริการทัวร์ของโรงแรม ออกไปชมความงามของหาดเซ็งกิกิ เดินทางไปมาตามราม เมืองหลักของเกาะลอมบอก เพื่อไปซื้อตั๋วรถบัสข้ามเกาะซุมบาวาไปเกาะฟลอเรส สถานีขนส่งบนเกาะลอมบอกที่มาตาราม ชื่อว่า Mandalika Bus Station อยู่แถว Bertais รถบัสเป็นของบริษัท Langsung Indah หาอาหารเที่ยงแบบท้องถิ่นด้วยบะหมี่ Bakso แบบอินโดนีเซีย เที่ยวไปเรื่อยๆอาจไปถึงหาด กูตา ซึ่งอยู่ด้านใต้ของเกาะลอมบ็อกไปหาหาด มาวุน (Mawun )ที่หน้าตาคล้ายๆกับอ่าวมาหยาที่เกาะพีพีของบ้านเรา แต่ที่นี่ไม่มีคนมาเที่ยวพลุกพล่าน หาดเซอลองบลานัก ที่สวยงามเงียบสงบไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน ตอนเย็นต้องกลับให้ทันดูพระอาทิตย์ตกดินที่ Pura Batu Bolong เป็นวัดฮินดู มีหินเป็นช่องโหว่ Pura Batu Bolong (Pura = วัด Batu = หิน Bolong = รู ) คืนนี้ยังพีกที่ Ressa Homestay อีก 1 คืน หาของกินแถวโรงแรม
Thursday 21st May 2015 รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม พักผ่อนตามอัธยาศัย เดินเล่นตามชายหาด เช็คเอ๊าท์ตอนเที่ยง ให้รถโรงแรมไปส่งที่ท่ารถ Mandalika Bus Terminal ที่ Bertais เวลาที่รถบัสจะออกจากสถานีคือ 14:30 น. ค่าตั๋ว จนถึง Sape เมืองด้านตะวันออกสุดของเกาะซุมบาวาคือ 200,000 รูเปียห์ต่อคน (ที่ท่ารถจะมีคนมาหลอกขายยามาลาเรีย อย่าเชื่อเพราะมาลาเรียไม่ได้ระบาดจริงๆที่ลาบวนบาโจ) รถอาจจะออกเลทประมาณ 15:30 น. มุ่งหน้าไปสู่เมืองด้านตะวันออกของเกาะลอมบอกชื่อ Labuhan Lombok รถบัสที่เรานั่งมาจะขึ้นเรือเฟอรี่ที่นี่ ท่าเรือชื่อ Kayangan เพื่อข้ามไปเกาะซุมบาวา ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการข้ามเกาะ (อากาศเย็น เตรียมเสื้อหนาวไปด้วย) บนเรือมีของขาย และมีคนเอาสินค้าทั่วไปมาขายด้วย ถืงเกาะซุมบาวาแล้วรถบัสก็มุ่งหน้าทางตะวันออกต่อไปเรื่อยๆของเกาะซุมบาวา คืนนี้จะนอนในรถบัสจนเช้า
Friday 22nd May 2015 เส้นทางบนเกาะซุมบาวาจะขึ้นเขาลงเขาเป็นทางคดโค้ง บางแห่งเกือบเป็นวงกลม รถแวะให้ทานอาหารแบบบ้านๆด้วยตอนค่ำประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง นั่งรถบัสมาจนเช้าตรู่ประมาณ ตี 5 รถบัสจะมาถึงเมือง Bima อากาศเย็น (ใช้เวลา 14 ชั่วโมงจากลอมบ็อก) แต่ยังไม่สุดทาง ต้องต่อรถมินิบัสที่นี่จากรถบัสใหญ่เป็นคันเล็ก (รอรถ 1 ชั่วโมง รถออกเวลา 6:00 น.) แต่เป็นของบริษัทเดียวกัน Langsung Indah นั่งรถมินิบัสจากเมือง Bima ไปยังเมือง Sape อีก 2 ชั่วโมงก็ถึงท่าเรือเวลา 8:00 น. จะมีเรือไป Labuan Bajo รอบ 10 โมง มีเที่ยวเดียวต่อวัน (เฉพาะวันเสาร์จะออก 16:00 น. ) ค่าเรือ 40,000 รูเปียห์ต่อคน ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ผ่านทัศนียภาพอันอันแปลกตาและสวยงามของภูเขาไฟ และน้อยใหญ่ในหมู่เกาะโคโมโด ถึง Labuan Bajo เมืองด้านตะวันตกสุดของเกาะฟลอเรส เวลา 16:00 น. เข้าพักที่โรงแรม Green Hill Boutique Hotel โรงแรมใหม่สวย มองเห็นวิวอ่าวลาบวนบาโจชัดเจน พักผ่อนตามอัธยาศัย ตอนค่ำออกไปหาข้าวกิน และหาบริษัททัวร์ที่จะเหมาเรือไปชมมังกรโคโมโด (กลางคืนเตรียมหาอาหารไว้เป็นเสบียงในทริปโคโมโดด้วย)
Saturday 23rd May 2015 รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ได้เวลาออกล่าโคโมโดแล้วครับ ทัวร์ออกประมาณ 6:30 น. ลมค่อนข้างเย็น วิวสวยแปลกตา เกาะข้างบนแห้งแล้งข้างล่างมีต้นไม้ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงถึงเกาะโคโมโด (Komodo Island) ถึงที่ทำการอุทยาน ที่ท่าเรือ Loh Lieng เรือจะปล่อยเราลงที่นี่แล้วให้เดินเข้าไป 100 เมตรจะเจอที่ทำการอุทยาน จ่ายค่าเข้าอุทยาน 206,000 รูเปียห์ ประมาณ 700 บาท (บัตรใช้ได้สามวัน) ถ้าเดิน 5 กิโล ต้องจ่ายเพิ่มอีก 50,000 รูปเปียห์ต่อคน เตรียมเสื้อกันแดดด้วย แดดแรงมากๆ แล้วก็ออกตะลุยล่าโคโมโดกันได้เลย ไปพร้อมเจ้าหน้าที่ ห้ามเดินเองเด็ดขาด ตอนบ่ายเรือจะพาไปสน็อกที่สวยมากๆชื่อ Pulau Selong ตอนเย็นกลับโรงแรม หาข้าวกิน พักผ่อนตามอัธยาศัย คืนนี้ก็ยังพักที่ Green Hill Boutique Hotel
Sunday 24th May 2015 วันนี้ฟรีสไตล์ เที่ยวถ้ำ Batu Cermin เป็นถ้ำสวยงาม ค่าเข้าชม 10,000 รูเปียห์ค่อคน ตอนค่ำยังนอนที่เดิมคือ Green Hill Boutique Hotel
Monday 25th May 2015 วันนี้จะเดินทางกลับบาหลีด้วยสายการบินไลอ้อนแอร์ (ใช้เครื่องวิงแอร์) ด้วยเที่ยวบิน IW1831 8:30 – 9:50 Labuan Bajo – Denpasar Bali ถึงสนามบินแล้วก็ต่อแท็กซี่ไปยังที่พักที่อูบุด โรงแรม Teba House Ubud Guest House ตอนบ่ายพักผ่อนตามอัทยาศัย ตอนเย็นเดินแวะชมร้านค้าสินค้าพื้นเมืองแถวโรงแรมที่พัก ตอนค่ำกลับมาดูการแสดงการร่ายรำเลก็องบาหลี
Tuesday 26th May 2015 เช่ารถพร้อมคนขับจากโรงแรม Teba House Ubud Guest House หรือเช่ามอไซค์ ชมเกาะบาหลี เช่นKintamani จุดชมวิวภูเขาไฟ หาอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟต์รับประทาน, วัดที่มีชาวฮินดูมาอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ กลับมาตอนค่ำชมการแสดงพื้นเมืองบาหลี อาจจะเป็น “กะจัก” พักที่ Teba House Ubud Guest House อีก 1 คืน
Wednesday 27th May 2015 ตื่นมารับประทานอาหารเช้า เช็คเอ๊าท์จากโรงแรม Teba House Ubud Guest House เช่ารถพร้อมคนขับให้พาไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆที่ เหลือ ได้แก่ Ulun Danau Bratan เป็นวัดที่อยู่กลางทะเลสาบบราตันอันสวยงาม / Pura Tanah Lot เลือกซื้อของฝากตามใจชอบ ตามด้วย Pura Uluwatu วัดบนหน้าผาสูงชันด้านใต้สุดของบาหลี เดินทางกลับสนามบินงูระไร ที่เด็นปาซาร์ เพื่อขึ้นเครื่องไปกัวลาลัมเปอร์ เที่ยวบินแอร์เอเชีย AK371 21:20 – 00:20 Denpasar – Kulalumpur ถึงกัวลาลัมเปอร์ (KLIA2) ผ่านตม. หามุมสงบนอนในสนามบิน (ในสนามบินตอนกลางคืนแอร์เย็นมาก เตรียมเสื้อหนาวด้วย)
Thursday 28th May 2015 ตื่นมาล้างหน้าล้างตาที่สนามบิน หาอาหารเช้ารับประทานที่สนามบิน แนะนำ Nasi Lemak (อาการพื้นบ้านแบบมาเลย์ ข้าวใส่เครื่องแกง มีเนื้อวัว หรือเนื้อไก่ให้เลือก ใส่ปลากรอบ ใส่ถั่ว) รอเที่ยวบินกลับประเทศไทย กัวลาลัมเปอร์ – สุราษฎร์ธานี AK838 10:35 – 11:05 (ถึงไทยแล้วก็ปรับนาฬิกาให้ช้ากว่าเดิม 1 ชั่วโมง ก็เป็นเวลาท้องถิ่นในไทย) ผ่านตม. เดินทางกลับเกาะสมุยโดยสวัสดิภาพ